วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2561

รายงานผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงน่ารู้ โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลหนองบัว (เทพวิทยาคม)

ชื่อเรื่อง รายงานผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงน่ารู้ โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลหนองบัว (เทพวิทยาคม) ชื่อผู้รายงาน นางอรนีย์ ศิโล ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2559 บทคัดย่อ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงจนเกิดทักษะความชำนาญทางการเรียนรู้อย่างมีความหมายด้วยตนเอง การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1)พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงน่ารู้ โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2)ศึกษาผลทดสอบทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงน่ารู้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E 3)ศึกษาความสามารถด้านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E 4)ศึกษาจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ของโรงเรียนอนุบาลหนองบัว(เทพวิทยาคม) ตำบลหนองกลับ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3 จำนวน 39 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1)แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E เรื่อง แสงน่ารู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 9 แผน 2)แบบทดสอบ วัดผลการเรียนรู้ก่อนและหลังเรียน แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ที่ผู้ศึกษาจัดทำขึ้นเอง โดยได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ 2)แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3)แบบประเมินจิตวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและ การทดสอบค่าที(t-test) ผลการศึกษาพบว่า 1)ประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E ทุกแผนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2)ผลทดสอบทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนโดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3)ความสามารถด้านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนโดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E อยู่ในเกณฑ์ดี 4)จิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนโดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E อยู่ในเกณฑ์ดีมาก คำสำคัญ : การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนววงจรการเรียนรู้ 5E, กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์,โรงเรียนอนุบาลหนองบัว (เทพวิทยาคม)